บอกแล้วว่าที่สำเร็จจริงๆมีเพียง 2% 98% เจ๊ง เอาเงินไปเผา ทั้งๆที่เป็นคนชอบเทคโนโลยี แต่พอแก่ตัวจะตกตะกอนเข้าใจหลายอย่าง และมองสิ่งต่างๆเข้าใจ อย่างหนึ่งคือ ฝรั่งพิมพ์เงินเอง ไม่มีทองค้ำ เลยเอาเงินไปลงทุน และส่งจรวดไปดาวอังคาร สร้าง Elon Musk สร้าง AI และเทคโนโลยี เพื่อให้คนเชื่อมั่น แล้วเอาเงินมาลงในแชร์ลูกโซ่ (ลงทุน) มันต้องคุย F-16 , F-28 , Artemis ฯลฯ ต้องคุยโม้ สร้างฉากต่างๆให้ได้ ถ้าคนไม่เชื่อไม่เอาเงินมาลงใหม่ ก็จบเห่ พินาศสิ้น นี่คือระบบแชร์ลูกโซ่ ต้องเข้าใจ แต่ตอนนี้มันพังแล้ว ปั้นอากาศ หรือเอาของไม่ได้ดีจริงออกมาขายเยอะ แต่ทำกำไร หรือผลตอบแทนไม่ได้ แถมเอาไปสร้างอาวุธซะเป็นส่วนใหญ่เพื่อขายอาวุธ แต่คนรู้ทัน และจีน รัสเซียก็เก่งไม่เบา มันชักขายไม่ออก พอขายไม่ออก ไม่มีคนเอาเงินมาฝัน มาเล่นหุ้น มาลงทุน มาหวัง ก็เจ๊งน่ะสิ จริงไหม ต้องเข้าใจกลไกนี้

nuuneoi.com
2 ชม. ·
ประเด็นวันนี้ เรื่องของ Startup สินะ อ่ะ เล่าให้ฟังด้วยละกันในฐานะคนที่ทำมาหลายตัวแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จเลย 555
.
จากต้นทางมีการเมนชั่นถึง Startup Ecosystem ในไทยที่ล้มเหลวอันเกิดจากหลาย ๆ สาเหตุจนทำให้ตอนนี้ Startup หายไปหมด … “สิ้นสุดยุค Startup เมื่อ Startup หมดมนตร์ขลัง”
.
ขอเล่าในมุมที่คลุกฝุ่นมาตั้งแต่ประเทศไทยยังไม่รู้จัก Startup มาจนถึงตอนนี้ก็ยังดื้อรั้นทำ Startup ตัวใหม่อยู่อีกว่าที่ผ่านมาเห็นอะไรมาบ้างทั้งในไทยและต่างประเทศ

.

= Startup คือกระแส อธิบายได้ด้วย Hype Cycle Graph =

.
เริ่มจากประเด็นแรก “สิ้นสุดยุค Startup” ซึ่งก็จะบอกว่าถึงจะยังไม่ถูกต้องเป๊ะแต่ก็ใกล้เคียง แต่ถามว่าเพราะ Startup Ecosystem ล้มเหลวหรอ ? เปล่าเลย แต่มันมีเหตุผลมาจากหลายสิ่ง
.
1) Startup เคยเป็นกระแส (Hype) – อยากให้โฟกัสตรงคำว่า “กระแส” เผอิญมนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่มีลำดับชั้นจึงมีนิสัยที่จะเฮโลไปยังกระแสต่าง ๆ ได้ง่ายเพื่อไม่ให้ตัวเองตกกระแส และเมื่อใดก็ตามที่คำว่ากระแสถูกดึงเข้ามาในสังคมมนุษย์ คนจะแห่กันไปเกาะอยู่กับสิ่งนั้นจนเว่อร์วังเกินกว่าที่ควรจะเป็น
.
นี่แหละ Hype
.
Startup ก็เช่นกัน ยุคหนึ่งมันเป็นกระแสระดับโลกที่ทุกคนอยากทำ ซึ่งไม่มีอะไรแปลกเลย ภาพ Hype นี้เกิดกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเราตลอดเวลา สั้นบ้างยาวบ้าง ยาว ๆ ก็เช่นอ่ะ VR, AR, Blockchain ที่ถึงแม้จะเป็นขาลงแล้วแต่ก็ยังคงเป็นกระแสอยู่ หรือที่ Hype จนตายไปแล้วก็ทีวีสามมิติ หรือที่ Hype สั้น ๆ ก็เจออยู่เรื่อย ๆ ตาม TikTok
.
ไม่ว่า Hype จะสั้นยาวแค่ไหนแต่ทุก Hype มี “จุดสิ้นสุด” เสมอก่อนจะเข้าสู่จุดที่เหมาะสม ซึ่งจุดที่ว่านั้นมีทั้งปรับตัวและกลับเข้าสู่ความเป็นจริงที่ควรจะเป็น รวมไปถึงจบและหายไปโดยสมบูรณ์ก็เป็นได้เช่นกัน
.
ดังนั้นที่บอกว่ามันยังไม่ถูกต้องนักคือที่บอกว่าสิ้นสุดยุคของ Startup แล้ว เปล่า มันแค่ไม่ได้เป็นกระแสแล้ว แต่ระบบยังขับเคลื่อนต่อไปอยู่ ทุกอย่างเป็นไปอยู่แค่รอบคอบและมีสติขึ้น 😊
.
สุดท้าย Hype จะอยู่ในรูปแบบของ Hype Cycle Graph ถ้าเข้าใจ Cycle ตรงนี้จะรู้ว่าไม่มีอะไรในวงการ Startup ที่น่าแปลกใจเลย เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ถ้าอยากจะรู้เรื่อง Hype มากขึ้น ไปเล่นเหรียญในตลาดคริปโตดูแล้วจะเข้าใจอย่างลึกซึ้ง อิริชัยมาเสะะะะ
.
2) เศรษฐกิจโลกมันเปลี่ยนหนะ – ครั้งหนึ่ง Startup เคยเป็นกระแสอย่างรุนแรงนั่นก็เพราะมันเป็นยุคของการเปลี่ยนผ่าน มีหลายอย่างเลยที่สามารถถูก Disrupt ได้แถมธุรกิจใหญ่หลาย ๆ อย่างยังอยู่ในช่วงเติบโต ทำให้เงินสะพัดมาก มีเงินมาหว่านลงทุนในบริษัทต่าง ๆ อย่างกระหน่ำ
.
แต่เช่นเดียวกับ Hype ที่มี Cycle ทุกธุรกิจก็มี Cycle ของมันเช่นกัน เริ่มจากขาดทุน แล้วก็เริ่มได้กำไร จากนั้นก็เติบโตแล้วก็จะ Decline
.
ตอนนี้เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังย่ำแย่ ยักษ์ใหญ่แต่ละตัวเริ่มเข้าสู่เฟส Decline แล้ว ส่วน Startup ที่เติบโตจน IPO ก็กลับกลายเป็นเจ๊งยับแทบทุกตัว ทำให้โอกาสในตลาดลดลงอย่างรุนแรง ไม่มีอะไรน่าแปลกใจเลยที่กระแส Startup จะจางลงไป
.
เพราะมันไม่มีอะไรที่ยั่งยืนถาวร ทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นเช่นนั้น

.

= อัตราการสำเร็จใน Startup นั้นต่ำมาก =

.
การที่ Startup ตัวนึงจะประสบความสำเร็จได้มันอาศัยหลายสิ่งอย่างมาก ไม่ใช่แค่ฝีมือแต่รวมถึงถิ่นที่อยู่อาศัย ดวง ฯลฯ อีกมากมาย
.
และสิ่งที่บอกได้อย่างนึงคืออัตราการสำเร็จในไทยนั้นต่ำลงไปอีกเพราะตลาดไม่เอื้ออะไรสักอย่างตั้งแต่ผู้คนในประเทศยันรัฐบาล เคยมีโอกาสได้ทำ Startup ทั้งที่ไทยและเมกา ก็ต้องบอกว่ามันต่างกันมากจริง ๆ และปัญหาในไทยมันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่คนหยิบมือจะแก้ไขได้
.
หากชี้หน้าเหล่า Startup ไทยว่านี่ไง ทำไปก็มีแต่คนเจ๊ง กระจอกนะพวกแก ก็อยากจะบอกว่านิ้วอาจเป็นตะคริวได้เพราะมันเยอะกว่าคนที่สำเร็จมาก อย่าไปทำแบบนั้นเลย เป็นห่วงสุขภาพนิ้ว
.
อ้อ ลบคำว่าไทยทิ้งดีกว่า ทั่วโลกก็สำเร็จแค่ 3-5% นะ 😅

.

= น้ำขุ่นไม่ได้แปลว่าไม่มีปลา =

.
น่าเศร้าที่ในตลาดที่ยากมากดั่งน้ำขุ่น ผู้คนกลับไม่สนใจมองหาปลาที่รอด แต่กลับไปนั่งกอดปลาที่ตาย
.
ยินดีกับความสำเร็จเล็ก ๆ ในตลาดที่โหดร้ายนี้ก็น่าจะทำให้น้ำใสขึ้นได้นะ ไม่งั้นน้ำก็จะขุ่นขึ้นเรื่อย ๆ 🙂

.

= คนเราเติบโตจากความล้มเหลว =

.
“คนที่ไม่เคยทำผิดพลาดคือคนที่ไม่เคยลงมือทำอะไรเลย”
.
การทำ Startup ของคนจำนวนมากที่เจ๊งไปอาจไม่ได้ตอบแทนในแง่ Financial แต่ได้มอบสิ่งที่มีค่ากว่านั้นเพื่อเติบโตต่อไปยังวันข้างหน้า
.
สิ่งที่เรียกว่า … “ประสบการณ์”
.
ฝากไว้แค่นี้สำหรับหัวข้อนี้

.

= Startup เป็นเรื่องของคนรวย =

.
ไม่ได้เกิดกับประเทศไทยอย่างเดียวนะ ไป Research มาเยอะมากในเรื่องนี้เพราะเป็นคนชอบอ่านประวัติของแต่ละคนที่ประสบความสำเร็จมาเลยบอกได้ว่าที่เมืองนอกเองก็ไม่ต่างกันครับ แม้แต่เมกาเองคนที่เริ่มจากติดลบหรือ 0 แล้วประสบความสำเร็จล้นหลามนั้นมีน้อยกว่าคนที่รวยอยู่แล้วมาก
.
สาเหตุไม่มีอะไรมาก คำเดียวสั้น ๆ เลย “ล้มบนฟูก”
.
คนรวยมีโอกาสจะล้มบนฟูกได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง สุดท้ายความสำเร็จก็เป็นไปได้มากกว่ามหาศาล
.
ยินดีต้อนรับสู่โลกทุนนิยมครับ

.

= จงยินดีกับความสำเร็จของคนอื่น =

.
เห็นมีพูดถึงว่ามีคนเจ๊ง Startup ที่เมกาใน 3 เดือนแล้วมาเป็นอินฟลูในไทย อื้ม … ไม่รู้หรอกว่าใครและเอาจริง ๆ เราไม่คิดว่าจะเป็นอะไรที่เราอยากจะไปสนใจด้วย
.
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ลองมองหลาย ๆ อย่างนะ ที่สำคัญเลยคือ “คนเราเปลี่ยนอดีตไม่ได้” แต่ได้มองหรือยังว่าสิ่งที่แต่ละคนทำในปัจจุบันได้ส่งผลที่ดีต่อผู้คนหรือไม่ ยึดเอาสิ่งนั้นเป็นที่ตั้งเถิดแล้วจะเกิดผลดี
.
และถ้าเค้ากลับไทยแล้วสร้างสิ่งดี ๆ จนประสบความสำเร็จ ก็น่าจะยินดีกับเค้านะ สนใจอดีตไปไม่ได้ช่วยอะไรเลย
.
ยินดีกับความสำเร็จของคนอื่นเป็นสิ่งหนึ่งจะทำให้ชีวิตก้าวหน้า

.

= ขอบคุณและขอชื่นชมผู้คนที่สู้มาจนถึงตอนนี้ =

.
ไม่มีอะไร ขอชื่นชมลอย ๆ ถึงเหล่าคนที่ทำสิ่งที่ตัวเองรักจนเติบโตมาจนถึงตอนนี้ แต่ละอย่างมันผ่านไปยาก ขอให้ภูมิใจกับมันกันนะเหล่า Founder ทั้งหลาย 😊
.
ด้วยรัก
คนแก่ ๆ คนนึง

ใส่ความเห็น